โปรจีน นำทัพ 4 สวิงสาวไทยรวมพลัง ป้องกันแชมป์ “Hanwha LIFEPLUS International Crown 2025” ที่เกาหลีใต้

โปรจีน นำทัพไทยล่าแชมป์โลกอีกสมัย!
4 สวิงสาวไทยรวมพลัง ป้องกันแชมป์ “Hanwha LIFEPLUS International Crown 2025” ที่เกาหลีใต้

วงการกอล์ฟหญิงโลกเตรียมระเบิดศึกทีมชาติสุดยิ่งใหญ่แห่งปีในรายการ Hanwha LIFEPLUS International Crown 2025 โดยปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 ตุลาคม ณ ประเทศเกาหลีใต้ และหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ที่ทั่วโลกจับตามอง คงหนีไม่พ้น "ทีมชาติไทย" แชมป์เก่าผู้สร้างปรากฏการณ์ในปีล่าสุด

นำโดย “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟสาววัย 22 ปี มือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน ผู้เป็นหัวใจสำคัญของทีมไทยในฐานะผู้นำของทีม ซึ่งจะรวมพลังกับ 3 เพื่อนร่วมชาติในระดับท็อปของวงการ ได้แก่

“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล (อันดับ 18 โลก)

“โปรพราว” ชเนตตี วรรณแสน (อันดับ 36 โลก)

“โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ (อันดับ 41 โลก)

8 ทีมสุดแกร่งประชันแมตช์เพลย์ระดับโลก
การแข่งขันในปีนี้จัดโดย LPGA และถือเป็นศึกทีมชาติระดับโลกที่ยึดจาก อันดับโลกของนักกอล์ฟหญิง 4 คนแรกจากแต่ละชาติ ณ วันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยทีมที่ได้สิทธิร่วมชิงชัยในปีนี้ ประกอบด้วย:

สหรัฐอเมริกา
เกาหลีใต้
ญี่ปุ่น
ไทย
สวีเดน
ออสเตรเลีย
จีน
World Team (ทีมรวมดาวจาก 4 ภูมิภาคที่ยังไม่มีทีมตัวแทน)

World Team ถือเป็นความแปลกใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในปีนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งจากภูมิภาคต่างๆ ได้แสดงศักยภาพบนเวทีโลก โดยมีเงื่อนไขว่าทั้ง 4 คนต้องไม่ซ้ำกับประเทศที่ติด 7 ทีมแรก

ไทยติด Top 5 ทีมวาง LPGA – เส้นทางลุ้นแชมป์ไม่ง่าย แต่ถึงเวลาแสดงพลังอีกครั้ง
LPGA ได้ประกาศ “อันดับทีมวาง” โดยอิงจากค่าเฉลี่ยอันดับโลกของนักกอล์ฟในแต่ละทีม ซึ่งทีมชาติไทยถูกจัดวางเป็น ทีมวางอันดับ 5 รองจากทีมยักษ์ใหญ่ทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย โดยมีรายละเอียดดังนี้:

สหรัฐอเมริกา
ญี่ปุ่น
เกาหลีใต้
ออสเตรเลีย
ไทย
สวีเดน
World Team
จีน

แม้ทีมไทยจะเป็นแชมป์เก่า แต่ปีนี้ต้องเจองานหนักตั้งแต่รอบแรก เพราะทีมเต็งแต่ละทีมต่างจัดทัพใหญ่มาด้วยนักกอล์ฟฟอร์มแรงจาก LPGA อย่างเต็มพิกัด

ปีนี้ไทยมาพร้อมประสบการณ์และความมั่นใจในฐานะแชมป์เก่า แต่เส้นทางป้องกันแชมป์ไม่ง่าย เพราะทีมอื่นอย่าง ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย กำลังอยู่ในฟอร์มพีค ขณะที่ เกาหลีใต้ เจ้าภาพ ย่อมมีความได้เปรียบด้านสภาพสนามและเสียงเชียร์ในบ้าน

อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของทีมไทยคือความหลากหลายของสไตล์การเล่น:

โปรจีน มีความแม่นยำและจิตใจนิ่ง

โปรเม มีประสบการณ์ระดับเมเจอร์

โปรพราว กำลังมาแรงและไม่กลัวความกดดัน

โปรเหมียว เด่นเรื่องพลังและเกมบุก

หากจูนฟอร์มได้พร้อมกัน โอกาส “เบิ้ลแชมป์” มีอยู่จริง

23-26 ตุลาคมนี้ แฟนกอล์ฟทั่วโลกจะได้เห็นพลังของธงไตรรงค์อีกครั้ง