8 ยอดฝีมือจาก “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์” บินตรงชมเมเจอร์ “ดิ โอเพ่น” ครั้งที่ 153 พร้อมออกรอบที่อังกฤษ

8 ยอดฝีมือจาก “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์” บินตรงชมเมเจอร์ “ดิ โอเพ่น” ครั้งที่ 153 พร้อมออกรอบที่อังกฤษ
สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พาผู้ชนะจากกิจกรรม “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์” จำนวน 8 คน บินลัดฟ้าสู่ยุโรป ร่วมชมการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์สุดยิ่งใหญ่ “ดิ โอเพ่น” ครั้งที่ 153 ถึงขอบสนาม รอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือ พร้อมได้ออกรอบพิเศษที่สนามระดับยูโรเปียนทัวร์ ลอนดอน กอล์ฟ คลับ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 17–24 กรกฎาคม 2568

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือในฐานะ “Global Sports Partnership” ระหว่าง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น และ “ดิ โอเพ่น” ซึ่งเป็นการแข่งขันกอล์ฟอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1860

นายวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เผยว่า “สิงห์ และ ดิ โอเพ่น ได้ร่วมงานกันเป็นปีที่ 3 แล้ว ปีนี้เราได้ขยายระยะเวลาการจัดกิจกรรม สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์ ออกไปกว่า 1 เดือน ทำให้มีผู้เข้าร่วมมากถึงกว่า 1,200 คน ก่อนคัดเลือก 8 คนสุดท้ายไปร่วมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งนี้”

เปิดรายชื่อ 8 ตัวแทนยอดฝีมือ
ผู้โชคดีทั้ง 8 คนมาจากการแข่งขันใน 2 รูปแบบ ได้แก่
การแข่งขันเวอร์ชวลกอล์ฟ:

ธนกร ตัณฑเวส

อภิชา อรนิชรตนพร

วันชนะ อุดมศรี

วรวีร์ ปริยวงศ์

การแข่งขันสนามจริง 9 หลุม (9 Holes Course Challenge):

นพรัตน์ มาศนพคุณรัตน์

โจเซฟ เฮนเล

นิธิกิตติ์ ชัยวรธนพันธ์

พุทธินันท์ ศรีอ่อนรอด

ผู้ชนะทั้ง 8 คนได้รับรางวัล “Singha The Open Exclusive Trip” ร่วมเดินทางไปชมการแข่งขัน “ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153” แบบใกล้ชิด พร้อมเชียร์ “สดมภ์ แก้วกาญจนา” โปรไทยเพียงหนึ่งเดียวในรายการนี้ ที่เพิ่งคว้าแชมป์เอเชียนทัวร์รายการที่ 3 ในเกาหลีใต้เมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา และได้สิทธิลงเล่น “ดิ โอเพ่น” เป็นครั้งที่ 2 หลังเคยสร้างประวัติศาสตร์จบอันดับ 11 ร่วมที่สนามเซนต์ แอนดรูวส์ในปี 2022

ออกรอบสุดพิเศษที่สนามระดับโลก
นอกจากชมการแข่งขันเมเจอร์ติดขอบสนามแล้ว กลุ่มผู้โชคดียังได้รับโอกาสออกรอบที่ London Golf Club สนามระดับยูโรเปียนทัวร์ที่ออกแบบโดยตำนานกอล์ฟ แจ็ค นิคลอส และเคยเป็นเจ้าภาพรายการใหญ่ระดับยุโรปอย่าง

European Open

Volvo World Match Play Championship

PGA Senior Championship (2018 & 2019)

กิจกรรมนี้ยังตอกย้ำบทบาทของ สิงห์ ในฐานะ Official Beer Partner ของ “ดิ โอเพ่น” พร้อมแสดงถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนกีฬากอล์ฟในระดับสากล และสร้างประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้กับนักกอล์ฟไทยและแฟนกอล์ฟทั่วประเทศ